เนื่องจากทางกรมสรรพากรได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ขยายเวลาการยื่นแบบฯ การชำระภาษี การนำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ
โดยขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตออกไปอีก 8 วัน นับแต่วันสุดท้ายของกำหนดการยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกประเภท
สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีตามประมวลรัษฎากรที่กำหนดให้ยื่นรายการภาษี ระหว่าง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2557
ทางสรรพากรได้ออกประกาศคำชี้แจง เรื่อง การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมนำเฉพาะข้อมูลในส่วนที่สำคัญมาสรุปออกมาว่า แบบแสดงรายการแต่ละแบบสามารถนั้น ได้รับการขยายเวลาการยื่นแบบเป็นวันไหน และมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างครับ
รายละเอียดของแต่ละแบบแสดงรายการ สามารถสรุปออกมาได้ดังนี้ครับ
1. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่
(1) ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายในวันที่ 8 เมษายนของปีถัดไป
(2) ภ.ง.ด.94 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายในวันที่ 8 ตุลาคมของทุกปี
2. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่
(1) ภ.ง.ด.50 ภ.ง.ด.52 และ ภ.ง.ด.55 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายใน 158 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
(2) ภ.ง.ด.51 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวเป็นภายใน 2 เดือน 8 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
(3) ภ.ง.ด.54 ให้ขยายกำหนดเวลาออกไปเป็นภายใน 15 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมินหรือจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทย
3. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ได้แก่ ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.2 ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายใน 15 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน
4. แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
(1) ภ.พ.30 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
(2) ภ.พ.36 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายใน 15 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ เดือนที่ขายทอดตลาด หรือเดือนที่ครบกำหนด 30 วันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น แล้วแต่กรณี
5. แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ ภ.ธ.40 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
ข้อยกเว้นสำหรับการขยายระยะเวลาดังกล่าว มีข้อสังเกตดังนี้ครับ
1. หากเป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีฉบับปกติในรูปแบบของกระดาษ แม้ต่อมาจะได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีอีกครั้งผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะ “ไม่ได้รับสิทธิ” ให้ขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี
2. หากเป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อมายื่นแบบแสดงรายการภาษีอีกครั้งในรูปแบบของกระดาษ จะ”ไม่ได้รับสิทธิ” ให้ขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเช่นกัน ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามประมวลรัษฎากร
สรุปว่า หากมีการเปลี่ยนประเภทของการยื่นแบบแสดงรายการนั้น สิทธิดังกล่าวนี้จะหมดไปทันทีครับ ส่วนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบกระดาษนั้น หมายความว่าไม่ได้รับสิทธิดังกล่าวอยู่แล้วครับ
สำหรับกรณีที่ยื่นแบบผิดพลาดนั้น การคำนวณเงินเพิ่มสำหรับกรณีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะเป็นไปตามตัวอย่างดังต่อไปนี้
ขออนุญาตยกตัวอย่างตามประกาศของกรมสรรพากรมาดังนี้ครับ
กรณีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.30 สำหรับเดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2555 จะได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากปรากฏว่า
(1) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 กรณีดังกล่าวได้รับสิทธิขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี จึงไม่ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด
(2) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2555 มีภาษีต้องชำระ กรณีดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 จนถึงวันชำระ
(3) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ต่อมายื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2555 เพื่อปรับปรุงรายการยอดขายแจ้งไว้ขาด 30,000 บาทภาษีขาย 2,100 บาท ทำให้มีภาษีต้องชำระเพิ่มเติม 2,100 บาท กรณีการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมดังกล่าวจะต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวล
รัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2555 จนถึงวันชำระ
(4) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติในรูปแบบของกระดาษ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2555 ต่อมายื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติอีกครั้งผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 มีภาษีต้องชำระเพิ่มเติม กรณีการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติอีกครั้งดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 จนถึง
วันชำระ
(5) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติในรูปแบบของกระดาษ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 มีภาษีต้องชำระ กรณีดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร ต่อมา ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 เพื่อปรับปรุงรายการยอดขายแจ้งไว้ขาด 30,000 บาท ภาษีขาย 2,100 บาท
ทำให้มีภาษีต้องชำระเพิ่มเติม 2,100 บาท กรณีการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเช่นกัน ผู้ประกอบการต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ 16
มีนาคม 2555 จนถึงวันชำระ
(6) ผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 มีภาษีต้องชำระ กรณีดังกล่าวได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี จึงไม่ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามประมวลรัษฎากร ต่อมาผู้ประกอบการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมในรูปแบบของกระดาษ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 เพื่อปรับปรุงรายการยอดขายแจ้งไว้ขาด 30,000 บาท ภาษีขาย 2,100 บาท ทำให้มีภาษีต้องชำระ
เพิ่มเติม 2,100 บาท กรณีการยื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 จนถึงวันชำระ
|